เมื่อรู้ทั้งรู้ว่าทีมไม่เอา : ความจริงจากแข้งสเปอร์สที่โดนปล่อยยืมตัว 11 ครั้งใน 5 ปี

ไม่มีนักเตะอาชีพคนไหนไม่อยากได้โอกาสลงสนาม แต่ความจริงมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ในทีมฟุตบอล 1 ทีมมีนักเตะ 20-30 คน แต่จะมีคนลงสนามได้แค่ 11 คนเท่านั้น และเมื่อที่ตรงนั้นไม่ใช่ของคุณ คุณก็ต้องยอมถอยออกมา ขยับขยาย หาทีมใหม่เพื่อโอกาสลงเล่น ไม่ว่าจะการย้ายขาด หรือการยืมตัว ซึ่งถ้าคุณเป็นดาวรุ่ง การยืมตัวคือทางเลือกที่ไม่แย่นัก คุณได้โอกาสเล่น ถ้าคุณพัฒนาโอกาสกลับมาเล่นให้สโมสรแม่ก็มีเช่นกัน

จอห์น โอบิกา อดีตดาวรุ่งของ สเปอร์ส ในช่วงปลายยุค 2000s ก็คิดแบบนั้น เขาแทรกนักเตะอย่าง ลูก้า โมดริช และคนอื่น ๆ ไม่ได้ สโมสรจึงส่งเขาไปยืมตัวที่ เยโอวิล ทาวน์ และความรู้สึกแรก เขาพบว่ามันก็สนุกไปอีกแบบสำหรับนักเตะกลาง ๆ อย่างเขา

“ครั้งแรกของผมกับ เยโอวิล ผมรู้สึกสนุกกับมันนะ มันไม่เกี่ยวกับชื่อเสียงของสโมสรหรือสไตล์การเล่นหรอก มันคือเรื่องของประสบการณ์ในสนามแข่งขันจริงๆและการเสริมสร้างสภาพจิตใจให้เเข็งเเกร่งขึ้น มันสนุกดีที่ต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันและคุณต้องยืนด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้ ผมอยู่ที่ เยโอวิล พร้อมๆกับ อันดรอส ทาวน์เซนด์ ในขณะที่ทีมกำลังหนีตกชั้น”

“แต่ท้ายที่สุดเเล้วเราก็รอดตายและจบในอันดับที่ 17 เหตุการณ์นั้นมันเป็นการโชว์ความเป็นนักสู้ครั้งใหญ่เลยล่ะ” โอบิก้า กล่าว

ในขณะที่ ทาวน์เซ่น กลับไปและมีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ แต่โอบิก้า กลับไม่โชคดีแบบนั้น ที่ว่างยังไม่เปิด ดังนั้น โอบิก้า จะต้องโดนส่งไปให้หลายทีมยืมตัว… แต่กลายเป็นว่านับจากครั้งแรก ไม่มีที่ไหนที่เขารู้สึกว่าเป็นการยืมตัวเพื่อรอโอกาสจากทีมชุดใหญ่เลย มันเหมือนการส่งเขาออกไปพ้น ๆ มากกว่า

“ผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่สำคัญนะเกี่ยวกับการย้ายออกไปแบบยืมตัวกับทีมที่ถูกต้องและเลือกหาสโมสรที่มีสไตล์การเล่นคล้ายๆกับสเปอร์สซึ่งผมจะทำให้ผมปรับตัวได้ง่ายขึ้น แต่ส่วนใหญ่ไม่เป็นแบบนั้น”

5 ปีหลังจากนั้น โอบิก้า ถูกปล่อยยืมตัวไปยัง 11 สโมสร เรียกได้ว่าแทบจะทุกตลาดซื้อขาย เขาจะต้องย้ายที่ย้ายทางตลอด นั่นทำให้เขารู้ว่าความหวังในการจะขึ้นทีมชุดใหญ่ของเขาปิดลงไปแล้ว เพราะเขาไม่ใช่เด็กอายุ 17-18 ปีอีกต่อไป เขาอายุ 23 และการบอกลาถาวรโดยไม่ต่อสัญญาคือทางเลือกที่ดีที่สุด

“หากคุณอยู่กับสโมสรแม่ คุณจะได้รับการติดตามการเล่นอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าหากคุณถูกส่งยืมตัวคุณจะได้เจออุปสรรคที่แตกต่างออกไปคุณต้องมีศรัทธาในตัวเองเยอะมากๆ โดยเฉพาะเรื่องทัศนคติที่มีต่อการใช้ชีวิตที่ห่างไกลบ้าน อย่างไรก็ตามคุณก็ต้องปรับตัวให้ได้ เรียนรู้วิธีหุงหาอาหารกินเองหรืออะไรต่างๆ”

“ผมมักจะเชื่อว่าผมสามารถเล่นในเกมระดับท็อปได้และผมจะได้รับโอกาสลงสนามไม่ว่าจะใน เอฟเอ คัพ หรือ ยูโรป้า ลีก ผมรู้ว่าไม่พร้อมที่จะได้ลงเล่นติดต่อกันทุกเกมหรอก แต่มันก็มั่นใจว่าผมจะสามารถทำมันได้ในสักวัน ผมแค่ต้องการอะไรบางอย่างที่จะวิ่งมาปะทะและส่งให้ผมหานจุดที่ต่อกับทีมติดอย่างลงตัวในยามที่ผมได้รับโอกาสลงเล่น … แต่สุดท้ายสิ่งที่ผมหวังมันไม่ได้เกิดขึ้น”

ปี 2014 โอบิก้า ลาสเปอร์ส และไปอยู่กับ สวินดอน ทาวน์ ทีมในลีกทู ปัจจุบันเขาอายุ 33 ปี ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในลีกรอง และปัจจุบันเป็นนักเตะของ มาเธอร์เวลล์ ในลีกสก็อตแลนด์

“การหาที่ทางของตัวเองให้เจอในเวลาอันสมควร ถือเป็นสิ่งที่นักบอลทุกคนควรทำให้ได้ ช่วงอาชีพของพวกเราสั้นมาก ถ้าคุณจมอยู่กับความหวังเพียงอย่างเดียว ผลลัพธ์อาจจะออกมาย่ำแย่แบบที่คุณไม่คาดคิดก็เป็นได้” โอบิก้า กล่าวทิ้งท้าย