ย้อนกลับในช่วงยุคต้นๆ ของยุค 90’s ชาติร่ำรวยอารยธรรมแห่งเปอร์เซียอย่าง อิหร่าน ไม่ได้เก่งกาจเรื่องฟุตบอลเหมือนในทุกวันนี้ พวกเขามีลีกฟุตบอลก็จริง แต่ก็เป็นแค่ลีกสมัครเล่นที่แทบจะหาข้อมูลอ้างอิงในอินเตอร์เน็ตไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในยุคนั้น
นี่คือเหตุผลที่ทำให้ อาลี ดาอี ในวัยเด็ก ไม่ได้คิดอยากจะเป็นนักฟุตบอลจริงจังถึงขั้นหาเลี้ยงชีพ จึงหันไปเรียนหนังสือและดันเรียนเก่งไม่ธรรมดาจนถึงขั้นจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ของ มหาวิทยาลัย ชารีฟ เลยทีเดียว
แม้ฟุตบอลจะเป็นงานรอง แต่ ดาอี กลับทำได้ดีมาก เขาเล่นให้กับ Esteghlal Ardabil ทีมในบ้านเกิดตอนอายุ 19 ปี ถ้าเทียบกับนักฟุตบอลยุโรปก็ต้องบอกว่าเป็นการเริ่มต้นที่ช้ากว่านักกีฬาทั่วไปอย่างน้อยๆ 4-5 ปีเลยทีเดียว
“มันไม่เกี่ยวหรอกว่าจะเริ่มต้นเร็วหรือช้า แต่เรื่องอาชีพนักฟุตบอลของผมมันมีส่วนประกอบ 2 อย่าง หนึ่งคือประสงค์ของพระเจ้า และสองคือตัวของผมที่ทำงานหนักมาตลอดอาชีพการเล่น ผมไม่เคยสูญเสียความเชื่อมั่นของตัวเองเลยแม้แต่ครั้งเดียว” อาลี ดาอี กล่าวกับเว็บไซต์ของ FIFA
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม อาลี ดาอี กลับยิงประตูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบไม่มีหยุด เขาขยับไปเล่นให้กับทีมที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งยิงถล่มทลายกับทั้ง เปอร์เซโปลิส และ อัล ซาดด์ ก่อนจะทำในสิ่งที่เขาบอกเสมอนั่นคือ “จงมั่นใจในตัวเอง” ด้วยการตอบรับข้อเสนอจาก อาร์เมเนีย บีเลเฟลด์ ในเยอรมัน
สิ่งที่ ดาอี ทำอาจจะดูธรรมดามากในยุคนี้ แต่ย้อนกลับไปในช่วงปี 1997-98 นักเตะ เอเชีย โดยเฉพาะชาติฝั่งตะวันออกกลาง ไม่ได้สนอกสนใจการย้ายออกมาเล่นในยุโรปมากมายนัก ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุเรื่องความกลัวในการปรับตัวทางวัฒนธรรม และกลัวการได้รับโอกาสลงสนามที่จำกัดจำเขี่ย แต่ทั้งหมดนั้น ดาอี ไม่ได้รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย
“แม่เบ่งผมออกมาให้เป็นดาวยิง มันเป็นเรื่องของสัญชาตญาณ แต่คุณต้องนำมันไปต่อยอดเองด้วยการฝึกฝน และผมมันเป็นพวกไม่มีข้ออ้างกับตัวเอง ผมไม่สนสิ่งรอบข้างที่ดูน่าสนุกสนานยั่วยวน ผมเน้นไปที่การซ้อมตลอดมา มันคือส่วนหนึ่งในชีวิตและที่ผมทำแบบนั้นก็เพราะว่าผมรักฟุตบอล”
ในวัย 35 ปี สำหรับกองหน้าหลายคน อาจจะเป็นแค่ตัวอะไหล่หรือแบ็คอัพ แต่ไม่ใช่สำหรับ ดาริโอ ฮูนเนอร์ เมื่อเขายังสนุกกับการยิงประตูในลีกสูงสุด จนคว้ารางวัลดาวซัลโว เซเรียอา มาครองได้อย่างเหลือเชื่อ และนี่คือเรื่องราวของอดีตหนุ่มโรงงาน ที่ต้องลาออกจากมาเตะฟุตบอล ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นดาวยิงของยุค…
ในบรรดาการแข่งขันทั้งหมดของฟุตบอลยุโรป ไม่มีรายการไหนในระดับสโมสรที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วนรายการที่เป็นเกียรติประวัติสูงสุดของทีมชาติสำหรับระดับทวีป ก็คือศึกยูโรที่จัดแข่งแบบ 4 ปีครั้ง นั่นจึงเป็นเรื่องยากที่จะคว้าแชมป์ทั้ง 2 รายการดังกล่าวได้ในปีเดียวกัน แต่ล่าสุด นาโช่ เฟร์นานเดซ,…
แกเรธ เซาธ์เกต บ่นไม่หยุดเรื่องนักเตะของเขาที่ไม่สามารถครองบอลได้ จนเป็นรองทุกประตูและแพ้ให้กับ สเปน ในนัดชิงชนะเลิศยูโร 2024 ซึ่งนอกจาก เซาธ์เกต แล้วยังมีทั้ง แกรี่ เนวิลล์ และ รอย คีน…
โรดรี้ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์ยูโร 2024 อย่างสมภาคภูมิ ว่ากันว่าที่คือมิดฟิลด์เบอร์ 6 ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในยุคปัจจุบัน ที่มีพร้อมทั้ง ร่างกาย ทักษะ และความคิด โดยเฉพาะเรื่องของความคิดและไอเดียนั้น หลุยส์ เดอ ลา…