ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ถูกจารึกในวงการฟุตบอลเยอรมัน เช่นเดียวกับการเดินทางของสโมสร ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น หลังขากพวกเขากลายเป็นสโมสรที่ 13 ที่ได้เถลิงบัลลังก์แชมป์ บุนเดสลีกา
พลพรรค “ห้างขายยา” ได้ชื่อว่าเป็นทีมระดับชั้นนำของวงการฟุตบอล เยอรมัน มีผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากนับตั้งแต่เลื่อนชั้นสู่เวที บุนเดสลีกา เยอรมัน ในปี 1979 และได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปครั้งแรกเมื่อปี 1985
พวกเขาไต่เต้าและสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นทีมหัวตารางในปี 1985 และส่วนใหญ่มักจบอันดับไม่ต่ำกว่าที่ 8 และในช่วงปี 1993 ถึง 2004 ก็มีถึง 3 ครั้งที่จบในอันดับท็อปทรี และมีถึง 4 ครั้งที่จบในอันดับรองแชมป์
แต่ก็อย่างที่ทราบกันว่านี่คือทีมที่มี “นิค เนม” ที่ดูอับโชคใน เยอรมัน “Bayer Vizekusen” ถ้าแปลความหมายตรงตัวก็คือ “ราชีนีองค์ที่ 2” หรือ “The second-queen” ก่อนจะกลายมาเป็นภาพที่ทุกคนเรียกกันว่า “Neverkusen” ที่ไม่เคยได้สัมผัสกับช่วยแชมป์ บุนเดสลีกา เลยสักครั้งซึ่งเป็นเหมือนกับคำสาป
ย้อนกลับไปในปี 2002 เลเวอร์คูเซ่น ในยุคที่มี มิชาลเอล บัลลัค, โอลิเวอร์ นอยวิลล์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ลูซิโอ้ และ เซ โรแบร์โต้ เรียกได้ว่าเป็นยุคที่ดีที่สุดยุคหนึ่งบนหน้าประวัติศาสตร์ของ เลเวอร์คูเซ่น ได้ลุ้นแชมป์ บุนเดสลีกา อย่างเต็มตัว ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ เดเอฟเบ โพคาล
แต่สุดท้ายผลปรากฏว่าพวกเขาจบลงที่ตำแหน่งรองแชมป์ทั้งหมด เลเวอร์คูเซ่น คว้าอันดับ 2 ใน บุนเดสลีกา แข่ง 34 นัด มี 69 คะแนน ซึ่งมีแต้มตามหลังแชมป์ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แค่คะแนนเดียว แถมลูกได้สียยังดีกว่าถึง 10 ลูกด้วยกัน
ส่วนในฟุตบอล เดเอฟเบ โพคาล ก็พ่ายให้กับ ชาลเก้ 04 ถึง 2-4 และใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็มาแพ้ให้กับ เรอัล มาดริด ในรอบชิงฯ 1-2 ที่ สกอตแลนด์ ณ สังเวียน ฮัมเดน พาร์ค
แน่นอนว่าคงไม่มีอะไรโชคร้ายไปกว่าการเป็นพระรองถึง 3 รายการอีกแล้ว หรือว่านั่นจะเป็นคำสาป ? เท่านั้นยังไม่พอเพราะความโชคร้ายยังลุกลามไปถึงเกมทีมชาติด้วย เพราะในศึก ฟุตบอลโลก 2002 เยอรมัน ก็แพ้ให้ บราซิล ในนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งปีนั้นมีผู้เล่น เลเวอร์คูเซ่น ติดโผไปถึง 5 คนด้วยกันนั่นก็คือ ฮานส์-บอร์ก บุตต์, คาร์สเท่น ราเมโลว์, มิชาเอล บัลลัค, แบรนด์ ชไนเดอร์ และ โอลิเวอร์ นอยวิลล์
หลังจากนั้น เลเวอร์คูเซ่น ก็ไม่เข้าใกล้การลุ้นแชมป์ บุนเดสลีกา อีกเลย จะมีก็แค่ปี 2011 ที่จบด้วยการเป็นรองแชมป์ และได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปถึง 17 ครั้ง และปีที่ไปไกลที่สุดก็คือฤดูกาลที่แล้วที่ไปถึงรอบรองชนะเลิศใน ยูฟ่า ยูโรปา ลีก
บนหน้าประวัติศาสตร์ของพวกเขามีแค่ 2 แชมป์เท่านั้นที่ถูกประดับในตู้โชว์นั่นก็คือ ยูฟ่า คัพ ปี 1988 และ เดเอฟเบ โพคาล ปี 1993 มันค่อนข้างเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับทีมชั้นนำแบบ เลเวอร์คูเซ่น
แต่สุดท้ายคำสาปที่ทุกๆ คนเคยว่าไว้ได้ถูกทำลายลงแล้วด้วยฝีมือของพ่อมดอย่าง ชาบี อลอนโซ่ ที่พา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เถลิงบัลลังก์แชมป์ บุนเดสลีกา ครั้งแรกในชีวิตด้วยการไม่แพ้ใครตลอด 29 นัด ชนะ 25 เสมอ 4 ยิง 74 ประตู และเสียแค่ 19 ประตูเท่านั้น มีโอกาสสร้างสถิติไร้พ่ายตลอดทั้งฤดูกาลได้เลยในอีก 5 เกมที่เหลือ
ในรายการอื่นๆ ก็เช่นกัน เดเอฟเบ โพคาล พวกเขาเดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว โดยจะพบกับทีมเก่าทีมแก่อย่าง ไกเซอร์สเลาเทิร์น ที่ตอนนี้อยู่ในเวที ลีกา 2 ในวันที่ 25 พฤษภาคม นี้
ส่วนในเวทียุโรปอย่าง ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ขาข้างหนึ่งก็ก้าวเข้าสู่รอบรองชนะเลิศแล้ว หลังเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มา 2-0 ใน เลก แรก ต้องยอมรับตามตรงว่าด้วยฟอร์มแบบนี้ ความแข็งแกร่งขนาดนี้ มันมีความเป็นไปได้ไม่น้อยเลยจริงๆ ที่ เลเวอร์คูเซ่น จะสร้างสถิติคว้า ทริปเปิ้ล แชมป์
ในวัย 35 ปี สำหรับกองหน้าหลายคน อาจจะเป็นแค่ตัวอะไหล่หรือแบ็คอัพ แต่ไม่ใช่สำหรับ ดาริโอ ฮูนเนอร์ เมื่อเขายังสนุกกับการยิงประตูในลีกสูงสุด จนคว้ารางวัลดาวซัลโว เซเรียอา มาครองได้อย่างเหลือเชื่อ และนี่คือเรื่องราวของอดีตหนุ่มโรงงาน ที่ต้องลาออกจากมาเตะฟุตบอล ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นดาวยิงของยุค…
ในบรรดาการแข่งขันทั้งหมดของฟุตบอลยุโรป ไม่มีรายการไหนในระดับสโมสรที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วนรายการที่เป็นเกียรติประวัติสูงสุดของทีมชาติสำหรับระดับทวีป ก็คือศึกยูโรที่จัดแข่งแบบ 4 ปีครั้ง นั่นจึงเป็นเรื่องยากที่จะคว้าแชมป์ทั้ง 2 รายการดังกล่าวได้ในปีเดียวกัน แต่ล่าสุด นาโช่ เฟร์นานเดซ,…
แกเรธ เซาธ์เกต บ่นไม่หยุดเรื่องนักเตะของเขาที่ไม่สามารถครองบอลได้ จนเป็นรองทุกประตูและแพ้ให้กับ สเปน ในนัดชิงชนะเลิศยูโร 2024 ซึ่งนอกจาก เซาธ์เกต แล้วยังมีทั้ง แกรี่ เนวิลล์ และ รอย คีน…
โรดรี้ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์ยูโร 2024 อย่างสมภาคภูมิ ว่ากันว่าที่คือมิดฟิลด์เบอร์ 6 ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในยุคปัจจุบัน ที่มีพร้อมทั้ง ร่างกาย ทักษะ และความคิด โดยเฉพาะเรื่องของความคิดและไอเดียนั้น หลุยส์ เดอ ลา…