โรดรีโก้ โกเอส กลายเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในวงการลูกหนังยุคปัจจุบัน จากผลงานที่รังสรรค์กับ เรอัล มาดริด รวมไปถึงความสำเร็จต่างๆ ที่ได้มาครอง
ย้อนกลับไป โรดรีโก้ ย้ายไปร่วมทัพ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 45 ล้านยูโร เมื่อช่วงซัมเมอร์ 2019 ก่อนกลายเป็นแนวรุกกำลังสำคัญของทีม สอยแชมป์ระดับเมเจอร์มาครองได้ทั้งหมด
ซึ่งในช่วงเวลาก่อนหน้านั้น โรดรีโก้ มีโอกาสย้ายมาเล่นในอังกฤษกับ ลิเวอร์พูล แล้ว ข้อตกลงในปี 2017 ที่ตกลงกับ ซานโต๊ส อยู่ที่ราว 3 ล้านยูโร เท่านั้น
ทว่าท้ายที่สุดดีลนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้น เพราะตัวนักเตะตอบปฏิเสธกลับไป เพราะต้องการบรรลุเป้าหมายบางอย่างกับ ซานโต๊ส ให้ได้ก่อน
“ตอนนั้นเราไม่ได้ปิดดีลกัน ผมต้องการอยู่ที่ ซานโต๊ส ต่อไปแม้ว่าข้อเสนอจะดีมากก็ตาม เส้นทางที่พวกเขาสัญญาไว้จะส่งผลดีต่ออาชีพของผมเช่นกัน ผมกำลังจะเรียนจบที่อังกฤษ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฟุตบอลยุโรป” โรดรีโก้ ย้อนความหลังดีลกับ หงส์แดง
“มันเป็นความฝันของผมเสมอที่จะได้เล่นในยุโรป ทุกอย่างดีมาก แต่ความปรารถนาของผมก็ดังขึ้น ผมอยากจะอยู่ที่ ซานโต๊ส ต่อไป และสร้างประวัติศาสตร์เล็กๆ น้อยๆ ที่สโมสร และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น”
“ผมสามารถเติมเต็มความฝันในการเล่นให้กับ ซานโต๊ส ได้ แต่มันเป็นเรื่องจริง ผมเกือบย้ายไป ลิเวอร์พูล แล้ว”
ซึ่งกับบทสัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการตอบโต้คำพูดของ เอลาโน่ อดีตกุนซือชั่วคราวของ ซานโต๊ส ที่เคยออกมากล่าวถึงสาเหตุที่ปฏิเสธ ลิเวอร์พูล ของ โรดรีโก้ เพราะว่าข้อเสนอที่ต่ำเกิน โดย เอลาโน่ เคยได้กล่าวถึงแข้งรายนี้ไว้ว่า
“ลิเวอร์พูล สนใจเด็กคนนี้อย่างมาก ตอนที่เขาอยู่ในทีมเยาวชน และพวกเขาต้องการตัวเขา แต่ข้อเสนอนั้นต่ำมาก”
“จากนั้นข้อเสนอก็มาจาก เรอัล มาดริด ผมคุยกับสโมสร และบอกพวกเขาว่าเด็กคนนี้คุ้มค่าที่จะลองเสี่ยง เขามีความสามารถนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย มีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนที่เป็นเช่นนั้น”
งานนี้ โรดรีโก้ ออกมาเคลียร์ชัดจบทุกประเด็น ยอมรับว่ามีข้อเสนอเข้ามาจริง แต่เขาปฏิเสธ และหลังจากนั้น 2 ปี ก็ได้ย้ายมาเล่นในยุโรปสมใจอยากกับ เรอัล มาดริด
ในวัย 35 ปี สำหรับกองหน้าหลายคน อาจจะเป็นแค่ตัวอะไหล่หรือแบ็คอัพ แต่ไม่ใช่สำหรับ ดาริโอ ฮูนเนอร์ เมื่อเขายังสนุกกับการยิงประตูในลีกสูงสุด จนคว้ารางวัลดาวซัลโว เซเรียอา มาครองได้อย่างเหลือเชื่อ และนี่คือเรื่องราวของอดีตหนุ่มโรงงาน ที่ต้องลาออกจากมาเตะฟุตบอล ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นดาวยิงของยุค…
ในบรรดาการแข่งขันทั้งหมดของฟุตบอลยุโรป ไม่มีรายการไหนในระดับสโมสรที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วนรายการที่เป็นเกียรติประวัติสูงสุดของทีมชาติสำหรับระดับทวีป ก็คือศึกยูโรที่จัดแข่งแบบ 4 ปีครั้ง นั่นจึงเป็นเรื่องยากที่จะคว้าแชมป์ทั้ง 2 รายการดังกล่าวได้ในปีเดียวกัน แต่ล่าสุด นาโช่ เฟร์นานเดซ,…
แกเรธ เซาธ์เกต บ่นไม่หยุดเรื่องนักเตะของเขาที่ไม่สามารถครองบอลได้ จนเป็นรองทุกประตูและแพ้ให้กับ สเปน ในนัดชิงชนะเลิศยูโร 2024 ซึ่งนอกจาก เซาธ์เกต แล้วยังมีทั้ง แกรี่ เนวิลล์ และ รอย คีน…
โรดรี้ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์ยูโร 2024 อย่างสมภาคภูมิ ว่ากันว่าที่คือมิดฟิลด์เบอร์ 6 ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในยุคปัจจุบัน ที่มีพร้อมทั้ง ร่างกาย ทักษะ และความคิด โดยเฉพาะเรื่องของความคิดและไอเดียนั้น หลุยส์ เดอ ลา…