ในโลกลูกหนังมีหลากหลายท่าทางเฉพาะที่ถูกจดจำ ไม่ว่าจะเป็น ซีดาน เทิร์น, สกอร์เปี้ยนคิก หรือ ท่าดีดหลังแบบแมงป่อง
ซึ่งทั้งหมดต่างถูกพูดถึงในแง่มุมต่างๆ ถึงความสวยงาม แต่กระนั้นมันมีอีกท่วงท่าที่อาจไม่ได้ดูหวือหวา แต่ใช้ได้ผลอยู่เสมอ
ท่านั้นมีชื่อว่า ‘อะ บลังโก บันนี่ ฮ๊อป’ ซึ่งเป็นการตั้งตามนักเตะคนแรกที่ทำในทัวร์นาเมนต์อย่างฟุตบอลโลกเมื่อปี 1998 ท่ามกลางความฮือฮาของแฟนบอลสมัยนั้น
โดยคนที่ทำให้ลีลาดังกล่าวมันดังกระฉ่อนขึ้นมาคือ ควอว์เตม็อค บลังโก วิธีการมันง่ายมากๆ แต่ก็ทำไม่ได้ง่าย คือเมื่อคุณโดนคู่แข่งขวางหน้าอยู่ 2 คน สิ่งที่ทำคือการใช้เท้าทั้ง 2 ข้าง หนีบลูกฟุตบอล และกระโดดแหวกกลางคู่ต่อสู้ไป
จุดเริ่มต้นที่ทำให้แฟนบอลยได้ยลโฉมมันเกิดขึ้นในศึกฟุตบอลโลก 1998 ในเกมที่เม็กซิโกดวลกับเกาหลีใต้ การแสดงลีลาแบบนี้เป็นที่ชอบใจของแฟนบอลยิ่งนัก เฉกเช่นกับตัวของ บลังโก ที่ทำท่าทางดังกล่าวหลังจากนั้นอีกหลายครั้ง
และด้วยการเป็นผู้เผยแพร่ให้ทั่วโลกได้เห็นแบบพร้อมๆ กัน ฉะนั้นแล้วท่าทางเลยหยิบยกชื่อของ บลังโก้ เป็นท่าเรียกดังกล่าว และเป็นที่เข้าใจตรงกันว่าการกระโดดหนีบบอล คือท่าที่ชื่อว่า ‘อะ บลังโก บันนี่ ฮ๊อป’
ครั้งหนึ่ง บัลงโก ได้ให้สัมภาษณ์ถึงลีลาการคีบบอลในลักษณะนี้ไว้ว่า “คุณมีเวลาตัดสินใจเพียงแค่ 2 วินาทีเท่านั้น เมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับกองหลังฝั่งตรงข้าม 2 คน ที่ยืนขวางอยู่ และผมก็รู้สึกว่า ทักษะนี้แหละคือส่วนหนึ่งของผม”
ชีวิตการค้าแข้งส่วนใหญ่ของ บลังโก้ อยู่ในโซนคนอคาเคฟทั้งในเม็กซิโก หรือ อเมริกา แต่ก็ลงสนามให้ทัพ “จังโก้” ไปมากถึง 199 เกม พร้อมคว้าแชมป์ โกลด์ คัพ 2 สมัย กับ คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 1 ครั้ง
แม้จะไม่ใช่นักเตะที่ชื่อดัง คว้าความสำเร็จระดับเมเจอร์มากนัก
แต่ด้วยวิธีการเล่น สไตล์ที่เปิดมุมมอง และลีล่าเป็นเลิศในยุคนั้น ไม่แปลกที่ ควอว์เตม็อค บลังโก จะถูกจดจำด้วยท่าทางที่มีนักเตะอีกหลายๆ คนนำมาปรับใช้ในยุคปัจจุบัน
ในวัย 35 ปี สำหรับกองหน้าหลายคน อาจจะเป็นแค่ตัวอะไหล่หรือแบ็คอัพ แต่ไม่ใช่สำหรับ ดาริโอ ฮูนเนอร์ เมื่อเขายังสนุกกับการยิงประตูในลีกสูงสุด จนคว้ารางวัลดาวซัลโว เซเรียอา มาครองได้อย่างเหลือเชื่อ และนี่คือเรื่องราวของอดีตหนุ่มโรงงาน ที่ต้องลาออกจากมาเตะฟุตบอล ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นดาวยิงของยุค…
ในบรรดาการแข่งขันทั้งหมดของฟุตบอลยุโรป ไม่มีรายการไหนในระดับสโมสรที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วนรายการที่เป็นเกียรติประวัติสูงสุดของทีมชาติสำหรับระดับทวีป ก็คือศึกยูโรที่จัดแข่งแบบ 4 ปีครั้ง นั่นจึงเป็นเรื่องยากที่จะคว้าแชมป์ทั้ง 2 รายการดังกล่าวได้ในปีเดียวกัน แต่ล่าสุด นาโช่ เฟร์นานเดซ,…
แกเรธ เซาธ์เกต บ่นไม่หยุดเรื่องนักเตะของเขาที่ไม่สามารถครองบอลได้ จนเป็นรองทุกประตูและแพ้ให้กับ สเปน ในนัดชิงชนะเลิศยูโร 2024 ซึ่งนอกจาก เซาธ์เกต แล้วยังมีทั้ง แกรี่ เนวิลล์ และ รอย คีน…
โรดรี้ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์ยูโร 2024 อย่างสมภาคภูมิ ว่ากันว่าที่คือมิดฟิลด์เบอร์ 6 ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในยุคปัจจุบัน ที่มีพร้อมทั้ง ร่างกาย ทักษะ และความคิด โดยเฉพาะเรื่องของความคิดและไอเดียนั้น หลุยส์ เดอ ลา…