บ๊อบบี้ ร็อบสัน : โค้ชแถวหน้าชาวอังกฤษคนสุดท้ายที่โลกยอมรับ
แม้ว่าจะอังกฤษ จะผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในยูโร 2024 แต่ฟอร์มการเล่นกับสโลวาเกีย ก็ทำให้แฟนบอลหลายคนพากันส่ายหน้า และตั้งคำถามกับเฮดโค้ชอย่าง แกเรธ เซาท์เกธ อีกครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้น มันยังทำให้อังกฤษถูกปรามาสว่า ไม่เคยมีโค้ชระดับเวิลด์คลาสเลย ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ยกเว้นเพียงแค่ บ๊อบบี้ ร็อบสัน อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษผู้ล่วงลับ
เพราะอะไร ร็อบสัน จึงเป็นโค้ชจากแดนผู้ดี ที่ได้รับการยกย่องจนวันสุดท้ายของชีวิต ติดตามไปพร้อมกัน
อันที่จริง สิ่งที่ทำให้ ร็อบสัน เริ่มได้รับการยอมรับ อาจต้องย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ 1970s หลังเข้ารับตำแหน่งกุนซือของ อิปสวิช ทาวน์ เมื่อเขาสามารถนำทัพม้าขาว ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของลีก แถมยังคว้าแชมป์ เอฟเอคัพในฤดูกาล 1977-1978 และ ยูฟ่าคัพ ในฤดูกาล
ทั้งนี้ แม้ว่าผลงานดังกล่าว จะทำให้ ร็อบสัน ได้ก้าวขึ้นไปคุมทีมชาติอังกฤษในเวลาต่อมา แถมยังพาทีมเข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก 1990 แต่สิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นผู้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของวงการฟุตบอลไปตลอดกาลคือวันที่เข้ารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของ สปอร์ติง ลิสบอน สโมสรในโปรตุเกส เมื่อปี 1992
ที่นั่นเขาได้พบกับเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า โชเซ่ มูรินโญ ก่อนที่ทั้งคู่จะสนิทกัน และทำให้โค้ชชาวโปรตุเกส ถูกชวนมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของเขา ตอนที่ ร็อบสัน ย้ายไปคุมทัพ เอฟซี ปอร์โต ในอีก 2 ปีต่อมา
“สิ่งที่เขามอบให้ผม มันไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ และผมคงจะไม่มุ่งสู่วงการฟุตบอล” มูรินโย กล่าวกับ Sky Sports News เมื่อปี 2019
“มันเหลือเชื่อมากกับความหมายของเขาที่มีแก่ผู้คน และสำหรับผมมันก็ยากที่จะพูดเกี่ยวกับเขา”
![]()
ทว่า ที่ปอร์โต ยังมีเพชรเม็ดงามอีกคนที่ชื่อว่า อังเดร วิลลาส โบอาส ทีเข้ามาอยู่ในทีมแมวมองของ ร็อบสัน ตั้งแต่อายุ 16 และได้รับใบรับรองการเป็นโค้ช ด้วยความช่วยเหลือจากกุนซือชาวอังกฤษ ในวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น
เขาแสดงให้เห็นสายตาที่เฉียบแหลมในการมองว่าสต้าฟคนไหนดูมีแวว และใช้บุคลิกที่อ่อนโยน รวมถึงความเอาใจใส่มอบความรู้แก่เด็กหนุ่มเหล่านั้น จนกลายมาเป็นสองกุนซือที่มีอนาคตในเวลาต่อมา
แต่สิ่งที่ทำให้ ร็อบสัน ได้รับการยกย่องมากที่สุด คือตอนที่เขา ที่หนีบ มูรินโญ มาด้วย เข้ามาคุมทีมบาร์เซโลนา ที่ตอนนั้นมีมิดฟิลด์นามว่า “เป๊บ กวาดิโอลา” ในปี 1996
แม้จะเป็นช่วงเวลาแค่ปีเดียว แต่กุนซือชาวอังกฤษ ก็แสดงให้เห็นความสามารถที่โดดเด่น โดยเฉพาะการกระตุ้นนักเตะในช่วงพักครึ่ง จนทำให้ มูรินโญ และ กวาดิโอลา จดจำนำไปใช้ในวันที่กลายมาเป็นเฮดโค้ช
และหนึ่งในเหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืมคือในเกมที่ บาร์เซโลนา เจอกับ แอธเลติก บิลเบา ในศึก โคปา เดล เรย์ ในวันที่ 12 มีนาคม 1997
ตอนนั้น ร็อบสัน เผชิญสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก เขากำลังจะถูกไล่ออก แถมในเกมก็ถูกออกนำถึง 3-0 หลังจบครึ่งแรก ต่อหน้า หลุยส์ ฟาน กัล ที่กำลังจะมาแทนที่เขา นั่งชมเกมจากบนอัฒจันทร์ของ คัมป์ นู
แต่ ร็อบสัน ก็ไม่สนใจ เขาใช้ช่วงเวลาพักครึ่ง 15 นาที เรียกความมั่นใจของลูกทีมให้กลับมา ก่อนจะเปลี่ยนแทคติก จนทำให้ บาร์ซ่า ยิง 5 ประตูรวดในช่วงครึ่งหลัง จากแฮตทริค ของ โรนัลโด้ กองหน้าดาวรุุ่งชาวบราซิล เอาชนะไปได้ 5-4 พร้อมกับเข้ารอบไปด้วยสกอร์รวม 6-7

“ผมได้เรียนรู้มากเลย” กวาดิโอลา กล่าวใน Bobby Robson: More Than A Manager ภาพยนตร์ของร็อบสัน
“ผมคิดว่า ‘ผมอยากเป็นผู้จัดการทีม’ เพราะว่าวิธีจัดการกับสถานการณ์นั้นมันเหลือเชื่อมาก มันไม่เกี่ยว่าสื่อจะพูดอย่างไร แต่หากทุกคนพยายามที่จะผลักดันคุณ มันจะทำให้สามารถสงบสติอารมณ์ได้เสมอ”
ชัยชนะดังกล่าวยังทำให้ บาร์เซโลนา ก้าวไปถึงแชมป์ โคปา เดล เรย์ และแม้ว่าสุดท้าย ร็อบสัน ขุนพลเลือดหมูน้ำเงิน จะวืดถ้วยลาลีกา แต่ ร็อบสัน ก็ยังช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ ซูเปอร์ โคปา เด เอสปานา และ ยูฟ่า คัพวินเนอร์สคัพ มานอนกอด และทำให้เขาได้รับการโหวตให้เป็นผู้จัดการยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรป ในฤดูกาล 1996-1997
“ในฐานะเทรนเนอร์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า (ร็อบสัน) คือหนึ่งผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” โรนัลโด้ ที่เคยร่วมงานกับร็อบสันในถิ่น คัมป์ นู กล่าว
ร็อบสัน อยู่ในวงการฟุตบอลจนกระทั่งปี 2004 ก่อนจะประกาศรีไทร์ โดยมีนิวคาสเซิล เป็นสโมสรสุดท้าย ที่ตัวเขาสร้างผลงานลือลั่น พาทีมไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
อย่างไรก็ดี สิ่งที่หลังเขาวางมือ มันยิ่งใหญ่กว่านั้น จากการที่เหล่าลูกศิษย์ของเขา ออกไปเติบโต และประสบความสำเร็จในเส้นทางสายโค้ช โดยเฉพาะ มูรินโญ ที่พา ปอร์โต้ คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกในปี 2004 ก่อนจะไปนำ เชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีก 2 ครั้งในปี 2004 และ 2006 รวมถึงแชมป์ UCL กับ อินเตอร์ มิลานในปี 2009
หรือการได้เห็น กวาดิโอลา พาบาร์ซ่า คว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ ทั้ง ลาลีกา, โคปา เดล เรย์ และ แชมเปียนส์ลีก ในปีแรกของการคุมทีมในฤดูกาล 2008-2009
นั่นทำให้ แม้ว่า ร็อบสัน อาจไม่ใช่กุนซือที่คว้าแชมป์ได้มากมายเป็นกระบุง แต่มรดกที่เขาได้ส่งต่อแก่คนรุ่นหลัง ก็ทำให้เขาได้รับการยอมรับ และยกย่องในฐานะหนึ่งในโค้ชระดับเวิลด์คลาสที่โลกเคยมีมา
ที่ไม่รู้ว่าจะต้องรออีกนานแค่ไหน กว่าจะมีโค้ชชาวอังกฤษ สามารถทำได้ในระดับเดียวกับ ร็อบสัน อีก
Picks and Pick'em is here!
More teams, more wins. Join a public league and draft instantly.