ยูโร 2000 : ครั้งสุดท้ายที่ ‘ยูโกสลาเวีย’ เฉิดฉายในศึกชิงแชมป์ยุโรป

ต้องเก็บของกลับบ้านไปอีกทีม สำหรับ เซอร์เบีย หลังทำได้เพียงแค่เสมอกับ เดนมาร์ก 0-0 ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ยูโร 2024 ที่ทำให้พวกเขาจบในอันดับสุดท้ายของกลุ่ม

ผลงานดังกล่าวยังทำให้ เซอร์เบีย ไม่สามารถก้าวผ่านร่มเงาของ ยูโกสลาเวีย ที่ทำผลงานได้ดี ในศึกชิงแชมป์ยุโรปมาตลอด รวมไปถึงในยูโร 2000 ครั้งสุดท้ายที่โลกได้เห็นฝีเท้าของพวกเขา

เกิดอะไรขึ้นบ้างในตอนนั้น? จากนั้นพวกเขาหายไปไหน? ติดตามได้ไปพร้อมกัน

สำหรับ ยูโกสลาเวีย พวกเขาดูเหมือนจะถูกโฉลกกับฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร มาตลอด หลังสามารถคว้ารองแชมป์รายการนี้ได้ถึง 2 สมัย (1960 และ 1968) และเข้าไปถึงรอบลึกหลายครั้ง

เช่นกันกับ ยูโร 2000 ที่ เนเธอร์แลนด์ และเบลเยียม เป็นเจ้าภาพร่วม ยูโกสลาเวีย ซึ่งนำโดยยอดนักเตะอย่าง ซินิซา มิไฮโลวิช กองหลังจอมปั่นฟรีคิก และเดยัน สแตนโควิช กองกลางตัวทำเกมจากลาซิโอ รวมไปถึง เปแดรก มิยาโตวิช ดาวยิงฟิออเรนตินา ก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ

ขุนพลจากภูมิภาคบอลข่านเปิดสนามได้อย่างตื่นเต้น ด้วยการเสมอกับ สโลเวเนีย 3-3 อดีตดินแดนของพวกเขา ที่แยกตัวออกไปเมื่อปี 1991 ทั้งที่โดนออกนำไปก่อนถึง 0-3 และเหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่า ก่อนที่จะมายิง 3 ประตูใน 6 นาที แบ่งแต้มไปได้หวุดหวิด

ก่อนที่เกมนัดที่ 2 ซาโว มิโลเซวิช กองหน้าจาก เรอัล ซาราโกซา จะมายิงประตูโทน ที่เป็นประตูที่ 3 ของเขาในทัวร์นาเมนต์ ช่วยให้ ยูโกสลาเวีย เฉือนเอาชนะ นอร์เวย์ไปได้ 1-0 เก็บ 3 แต้มแรกได้ในที่สุด

ปิดท้ายด้วยเกมกับ สเปน ยูโกสลาเวีย ก็โชว์ฟอร์มระดับ 5 ดาว ออกนำคู่แข่งได้ถึง 3 ครั้ง แต่สุดท้ายก็มาเจอลูกฮึดของ ขุนพลกระทิง ที่ยิงสองประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พลิกแซงเอาไปได้อย่างสนุก 3-4

แม้จะจบเกมด้วยมือเปล่า แต่ ยูโกสลาเวีย ที่มี 4 คะแนนจาก 3 เกม ก็ยังดีพอที่จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาท์ หลังมีแต้มเท่ากับ นอร์เวย์ แต่มีเฮดทูเฮดที่ดีกว่า

อย่างไรก็ดี ราวกับหนังคนละม้วนในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อ ยูโกสลาเวีย ที่เล่นได้อย่างดุดันมาตลอด กลับไปไม่เป็น หลังโดน เนเธอร์แลนด์ ไล่อัดไปอย่างขาดลอย 6-1 จากแฮตทริค ของพาทริค ไคลเวิร์ต, สองประตูของ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส และการทำเข้าประตูตัวเองของผู้เล่น ยูโกสลาเวีย ตกรอบไปอย่างเจ็บปวด

ทั้งนี้ แม้ว่าเกมนัดสุดท้ายจะหลุดฟอร์ม แต่ผลงานในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ได้ทำให้ผู้เล่นยูโกสลาเวียหลายคนได้ย้ายไปเล่นให้กับทีมใหญ่ในเวลาต่อมา ไปว่าจะเป็น มิโลเซวิช ที่ได้ไปล่าตาข่ายกับ ปาร์มา หรือ มิไฮโลวิช และ สแตนโควิช ที่ไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน

ทว่า นั่นก็เป็นฉากสุดท้ายที่โลกได้เห็น “ยูโกสลาเวีย” เมื่อปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ได้ส่งผลกระทบต่อทีมชาติ และทำให้พวกเขาพลาดโอกาสไปเล่นฟุตบอลโลก 2002 ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วม

แม้ว่าหลังจากในปี 2003 พวกเขาจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น เซอร์เบียและมอนเตเนโกร หลังการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ที่หลายดินแดน แยกตัวไปเป็นเอกราช จนเหลือ แค่ เซอร์เบีย กับ มอนเตเนโกร แต่ผลงานก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น และพลาดสิทธิ์เข้าไปเล่นในยูโร 2004 รอบสุดท้าย

จนกระทั่งในปี 2006 เซอร์เบียและมอนเตเนโกร ก็ได้มีโอกาสกลับมาเล่นในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์อีกครั้ง หลังคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน แต่มันก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ใช้ชื่อนี้ หลัง มอนเตเนโกร แยกตัวเป็นเอกราชในเวลาต่อมา

หลังจากนั้น อดีตยูโกสลาเวีย ที่เหลือเพียงแค่ เซอร์เบีย และพวกเขาก็เหมือนเป็นเส้นขนาน สำหรับยูโร เมื่อ เซอร์เบียไม่เคยผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายอีกเลย จนกระทั่งปี 2024 ที่เพิ่งตกรอบแรกไป