ดานี โอลโม: ทำไมตัวทีเด็ดกระทิงจึงไม่เคยเล่นในลีกสเปนมาก่อน ?

นอกจากเจ้าหนู ลามีล ยามาล นักเตะสเปนที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามก็คือ ดานี โอลโม ทั้งจากการเป็นคนยิงประตูขึ้นนำในเกมกับเยอรมัน และยิงประตูชัยในเกมกับฝรั่งเศส พร้อมพาทีมเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

อย่างไรก็ดี แม้จะอยู่ในทีมชาติสเปนชุดนี้ได้อย่างกลมกลืน แต่เขากลับไม่เคยลงเล่นในลีกสเปนแม้แต่นัดเดียว

เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ติดตามไปพร้อมกัน

แม้ว่า ดานี โอลโม จะไม่เคยเล่นในลีกสเปนมาก่อน แต่เขาก็เป็นชาวสเปน 100 ร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อถือกำเนิดที่เมืองเทราสซา ที่ตั้งอยู่แถบชานเมืองของบาร์เซโลนา

โอลโม มีฝีเท้าที่โดดเด่นมาตั้งแต่เด็ก และทำให้เขาได้เข้าไปอยู่ในทีมเยาวชนที่ดีที่สุดของท้องถิ่นอย่าง ลา มาเซีย ของบา่ร์เซโลนา ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันของรุ่นตัวเอง

อย่างไรก็ดี ตอนอายุ 14 ปี โอลโม และครอบครัว ก็ทำให้คนที่ บาร์ซา ต้องช็อค เมื่อตัดสินใจออกจากทีม เพื่อไปเริ่มชีวิตใหม่ในดินแดนที่ห่างไกลออกถึง 2,000 กิโลเมตร กับ ดินาโม ซาเกรบ ทีมดังของโครเอเชีย

“พวกเขาบอกว่าผมบ้า” มิเกล โอลโม พ่อของ ดานี กล่าวกับ The Guardian

“พวกเขารุมฆ่าผมซ้ำ ๆ เพราะสิ่งนี้ บอกว่าผมกำลังทำลายชีวิตของลูกชาย การออกจากบาร์เซโลนา ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็นกัปตัน และเขาก็กำลังเล่นให้ทีมชาติ มันเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิตของเขา”

และเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาและครอบครัว เลือกที่จะไม่ไปต่อกับยอดทีมแห่งแดนกระทิง เนื่องจากมองว่าตัวเอง คงจะไม่สามารถเบียดขึ้นไปแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมบาร์ซาได้

เพราะขุนพลเลือดหมูน้ำเงินในตอนนั้น เป็นยุคที่ 3 ประสาน MSN (ลิโอเนล เมสซี, หลุยส์ ซัวเรส และ เนย์มาร์) เพิ่งจะเริ่มต้น แถมแผงกลางยังอุดมไปด้วยแข้งระดับพระกาฬอย่าง ซาบี เอร์นันเดซ, อันเดรส อิเนียสตา และ เซอร์จิโอ บุสเก็ต

ส่วนเหตุผลที่ทำให้ โอลโม เลือกที่จะย้ายไปอยู่กับ ซาเกรบ ก็เพราะข้อเสนอและแผนการในอนาคตที่ชัดเจน นั่นคือพัฒนาให้เขาเป็นนักเตะอาชีพที่มีคุณภาพ แล้วขายออกไป

“มันชัดเจน สิ่งที่ ดินาโมเสนอให้ผมในเชิงกีฬาในแบบที่ไม่มีทีมไหนมอบให้ได้ เป้าหมายมันชัดเจน คือทำให้ผมเป็นมืออาชีพ” โอลโม กล่าวกับ Sky Sports

“ดินาโม เป็นสโมสรที่มักจะดึงผู้เล่นดาวรุ่งเข้ามา พัฒนาพวกเขา และรู้ว่าจะใช้งานพวกเขาอย่างไร แล้วขายออกไป นั่นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผม”

และที่นั่นก็ทำให้เขาได้พัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง หลังประเดิมสนามให้ ดินาโม ซาเกรบ ด้วยวัยเพียง 16 ปี รวมถึงได้ลงเล่นฟุตบอลถ้วยใหญ่สโมสรยุโรป อย่างยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่อายุ 19 ปี

ตลอด 6 ซีซั่นที่โครเอเชีย โอลโม ลงเล่นให้กับ ดินาโม ไปถึง 124 นัด ยิงไป 34 ประตู จนกลายเป็นแข้งเนื้อหอม และได้รับความสนใจจากหลายทีมใหญ่ในยุโรป รวมถึง บาร์เซโลนา ทีมในวัยเด็ก แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็เลือกที่จะย้ายไปอยู่กับ อาร์แบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัวราว 20 ล้านยูโร

“ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นทางเลือกที่แท้จริงหรือไม่” โอลโม อธิบายถึงเหตุผลที่ไม่ได้ย้ายไปบาร์ซ่ากับ Goal

และที่นี่ ก็ทำให้ โอลโม เฉิดฉายอย่างเต็มตัว ภายใต้การคุมทีมของ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เขากลายเป็นเพลย์เมกเกอร์ของทีม ก่อนจะทำไปถึง 24 แอสซิสต์ จากการลงเล่นกว่า 100 นัดในบุนเดสลีกา พร้อมช่วยให้ ไลป์ซิก คว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ได้ถึง 2 สมัย

นอกจากนี้ ผลงานที่ เยอรมัน ยังทำ โอลโม ก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ของทัพกระทิงอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะมีชื่อเป็น 1 ใน 26 ขุนพลสุดท้าย ชุดลุยยูโร 2024 และเพิ่งพาทีมเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

แม้ว่า โอลโม อาจจะไม่ได้เป็นผู้เล่นตัวจริง แต่เขาก็มีบทบาทสำคัญในฐานะตัวเปลี่ยนเกม โดยเฉพาะในเกมกับเยอรมัน ที่ทำ 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ ช่วยให้บ้านเกิด เอาชนะเจ้าภาพเยอรมันไปได้ 2-1

ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้ โอลโม กลายเป็นนักเตะที่สร้างความแตกต่างให้กับอดีตแชมป์ยูโร 3 สมัย ก็เป็นผลพวงมาจากการที่เขาไม่เคยลงเล่นในลีกสเปน แม้แต่เกมเดียว

“ที่โครเอเชีย มันเป็นอีกวัฒนธรรมหนึ่ง และผมได้เรียนรู้เรื่องพละกำลังมากเลย” โอลโม กล่าวกับ Sky Sports

“ที่สเปน มันเป็นเรื่องของบอลมากกว่า โดยเฉพาะที่บาร์เซโลนาสมัยที่ผมเล่นอยู่ในอคาเดมีตอนเด็กๆ ผมได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ที่โครเอเชีย และผมก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายที่นี่ ที่เยอรมัน มันคือส่วนหนึ่งของกระบวนการทั้งหมด”

“แต่โดยเฉพาะที่โครเอเชีย ช่วยผมได้มาก ผมอายุแค่ 16 ปี และได้ฝึกซ้อมกับผู้เล่นทีมชาติที่เคยลงเล่นในฟุตบอลโลก นั่นเป็นก้าวที่ใหญ่สำหรับผม มันทำให้ผมดีขึ้นทั้งในเรื่องร่างกายและจิตใจ เพราะว่าเกมมันเร็วกว่า และทุกอย่าง”

อย่างไรก็ดี โอลโม ก็ไม่ได้ปิดประตูในการกลับไปเล่นในบ้านเกิด เพียงแค่ตอนนี้ เขาหวังจะทำผลงานให้ดีที่สุดกับทีมชาติสเปน ที่กำลังลุ้นแชมป์อยู่ในขณะนี้ก่อน

“อนาคตของผมเหรอ? อนาคตของผมคงได้รู้ก่อนวันที่ 14 กรกฎาคม ผมยังคงใจเย็นอยู่ และโฟกัสกับยูโร กับการลงเล่น กับการทุ่มเทเพื่อมัน” ออลโม กล่าว

“ผมจะกลับไปบาร์เซโลนาหรือเปล่าน่ะเหรอ? การกลับไปบาร์ซา เป็นตัวเลือกที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เราจะได้เห็นกันหลังจบยูโร”

ก็ต้องมารอดูกันว่าสุดท้ายเรื่องราวนี้จะจบลงอย่างไร ?และเขาจะได้กลับไปค้าแข้งในลีกสเปนหรือไม่? หรือเป็น บาร์ซา หรือเปล่า ที่จะได้ตัวไป? อีกไม่นานเราคงจะได้รู้กัน