ข้ามเส้นไปหรือยัง ? เมื่อวิทยาศาสตร์ไขปริศนาลูกยิงนัดชิงฯฟุตบอลโลก 1966
แม้ว่า อังกฤษ จะสามารถคว้าแชมป์โลก มาประดับตู้โชว์ได้ 1 สมัย แต่สิ่งที่ยังเป็นข้อถกเถียงมาอย่างยาวนาน คือลูกยิงของ เจฟฟ์ เฮิร์สต์ ในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อปี 1966 กับเยอรมันตะวันตกมันข้ามเส้นไปหรือยัง ?
สำหรับฝั่งอังกฤษผู้ชนะ ก็ยืนยันมาตลอดว่ามันข้ามเส้นไปแล้วอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ เฮิร์สต์ คนยิง ที่ยอมรับว่าอาจจะมองเห็นไม่ชัด แต่ก็เชื่อว่ามันเป็นประตูที่ขาวสะอาด
“ผมบอกทุกคนในวงการฟุตบอลเสมอว่าบอลข้ามเส้นไปเป็นเมตร” เซอร์ เจฟฟ์ เฮิร์สต์ กล่าวกับ FIFA.com
“ผมยิงบอลแบบหมุนตัวยิงแล้วก็ล้มลง ดังนั้นผมจึงมีมุมมองที่แย่มาก และลูกบอลก็เด้งอยู่ข้างหลัง (ฮานส์) ทิลคอฟสกี (ผู้รักษาประตูเยอรมัน) ดังนั้นผมจึงไม่เห็นมัน”
“แต่ผมเชื่ออย่างสุดหัวใจว่าบอลข้ามเส้นไปแล้ว และความเชื่อนั้นก็ค่อนข้างชัดสำหรับผม”
ตรงกันข้ามกับเยอรมันตะวันตก ที่มองว่าบอลไม่ได้ข้ามเส้นแม้แต่น้อย หนึ่งในนั้นคือ โวล์ฟกัง เวเบอร์ กองหลังของผู้แพ้ ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใกล้เหตุการณ์ที่สุด
“ผมบอกเขาว่า ‘หยุดเดี๋ยวนี้ นายกำลังทำอะไร’ ผมเห็นชัดเจนว่าบอลยังไม่ได้เข้าไป” เวเบอร์ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เขาพยายามบอกให้ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน เอาแขนลงกับ Der Tagesspiegel
“ชัดเจนว่าพวกอังกฤษถูกสอนว่าให้ยกแขนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อโน้มน้าวผู้ตัดสิน”
และเมื่อทั้งสองฝั่งยังยืนยันในมุมมองของตัวเอง วิทยาศาสตร์ก็กลายเป็นกุญแจสำคัญที่จะมาไขปริศนานี้ โดยมี เอียน รีด และ แอนดรู ซิสเลอร์แมน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ็อฟฟอร์ด เป็นหัวหอก
พวกเขาใช้วิธีนำวิดีโอฟุตเทจจากสองมุมในเฟรมเดียวกันมาเทียบกัน ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Projective Geometry เพื่อจำลองภาพกรอบหกหลาจากมุมด้านบน แล้วค่อยพล็อตจุดเพื่อแสดงการเคลื่อนที่ของลูกบอล รวมไปถึงจุดที่ลูกบอลตกพื้น
![]()
“หลังจากแปลงฟุตเทจเป็นดิจิตอล เราได้ใช้เทคนิค Projective Geometry กับสองภาพนี้ เพื่อสร้างภาพในกรอบ 6 หลาจากมุมสูง ซึ่งเราได้พล็อตจุดที่บอลตกถึงพื้นในแนวดิ่ง” ดร.รีด แห่งภาควิศวกรรมศาสตร์ อธิบาย
“เราใช้เสาประตูเพื่อคาดคะเนจุดที่หายไปในเส้นตั้ง โดยเส้นตั้งจะลากผ่านบอล ทำให้เห็นจุดที่มีโอกาสเกิดขึ้นจากมุมสูง”
“ภาพจากสองมุมจะทำให้เกิดเส้นสองเส้นลากตัดผ่านกัน เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น”
แต่เนื่องจากในฟุตเทจ มีบางมุมที่ลูกบอลถูกบังจากเสาหรือผู้รักษาประตูเยอรมัน พวกเขาจึงเผื่อความผิดพลาด เช่นการเกิด Motion Blur (กล้องขยับ แล้วภาพไม่ชัด) หรือมุมมองที่อาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริง
“มีสามเฟรมสำคัญที่ไม่สามารถคำนวณตำแหน่งได้ เพราะลูกบอลถูกผู้รักษาประตูบังถึง 3/4 แต่ในอีกด้านหนึ่ง สามารถเห็นตำแหน่งของบอลชัดเจน ทำให้รู้ตำแหน่งของบอลก่อนที่มันจะหายไปแล้วโผล่กลับมาอีกครั้ง” ดร.รีด ธิบายต่อ
“แม้ว่าบอลจะถูกบัง แต่มันก็อยู่ในขอบเขตเล็ก ๆ ที่จำกัด ที่ทำให้สามารถทดสอบได้”
และจากการทดลองซ้ำๆ ก็ได้ข้อสรุปว่าลูกยิง 3-2 ของ เฮิร์สต์ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ อาจจะข้ามเส้น แต่ก็ยังไม่ได้เต็มใบ ซึ่งตามกฎของฟุตบอลแล้ว มันไม่ถือเป็นประตู
“ผลของการวิคราะห์นี้สรุปได้ว่าบอลตกลงบนเส้น และเมื่อพิจารณาถึงความเออเรอร์ที่เลวร้ายที่สุด บอลก็ยังห่างจากการเป็นประตูถึง 3 นิ้ว (ราว 7.6 เซนติเมตร)” ดร.รีด สรุปงานวิจัย
แม้ว่าหลังจากนั้น Sky สื่อชื่อดังของอังกฤษ จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ โดยใช้เทคโนโลยี Virtual Reality ของ EA Sports จำลองเหตุการณ์ขึ้นมา และบอกว่าบอลข้ามเส้นไปแล้ว แต่วิดีโอของพวกเขา ก็ถูกวิจารณ์ว่าดูหลอกตา
เนื่องจากจังหวะที่อ้างอิง เป็นจังหวะที่บอลกระดอนพื้นแล้วลอยอยู่บนอากาศ แต่พอเปลี่ยนเป็นภาพกราฟฟิค กลับเป็นจังหวะที่บอลอยู่บนพื้น และมันก็ทำให้ความน่าเชื่อถือลดลงไป
สุดท้ายแล้ว ตราบใดที่ยังไม่มีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ มันก็คงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันต่อไป แล้วสำหรับคุณล่ะคิดว่ามันข้ามเส้นไปหรือยัง?
Picks and Pick'em is here!
More teams, more wins. Join a public league and draft instantly.